ข้อมูลพืชสวน
กลุ่มพืช(Group)/ชื่อพืช : สมุนไพรและเครื่องเทศ
ชื่อพืช (PlantName)
ชื่อไทย(Thai Name/Vernacular name) : กัญชา
ชื่อวิทยาศาสตร์ (Sciencetific Name)
วงศ์ (Family) : CANNABACEAE
สกุล (Genus) : Cannabis
ชนิด (specific epithet) : sativa
ชื่อผู้ตั้ง (Author name) : L.
ชนิดย่อย (Subspecies) : ไม่ระบุ
พันธุ์ (Variety) : พื้นเมือง
ทดสอบเพิ่มฟืลด์ :
ลักษณะทางเกษตร :
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
สถานการณ์พืช : ในปี 2547 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถทรงมีพระราชเสาวนีย์ในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ภาคเหนือ มีพระราชประสงค์ที่สนับสนุนให้มีการศึกษาและส่งเสริมให้เกษตรกรชาวเขาปลูกเฮม(Hemp) เพื่อใช้เป็นเครื่องนุ่งห่มในครัวเรือนและจำหน่ายสู่ตลาด เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้จากการผลิตหัตกรรมต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2548 คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้สำนักคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติศึกษาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางกำหนดมาตรการในการพัฒนาและส่งเสริมการปลูกเฮมพ์ ให้สามารถผลิต เพื่อเป็นรายได้เสริมแก่เกษตรกรบนพื้นที่สูง พืชเฮมพ์(Hemp)เป็นชนิดย่อย(subspecies) ของกัญชา จัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 มีสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลางเช่นเดียวกับกัญชาคือ สารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล(Tetrahydrocannnabinol, THC) ปัจจุบันการดำเนินการเกี่ยวกับเฮมพ์ จึงต้องขออนุญาตผลิต จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ตามกฏกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ.2522) ออกตามความในพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 เช่นเดียวกับยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ชนิดอื่น ซึ่งกฎกระทรวงฉบับดังกล่าวไม่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการขออนุญาต การออกใบอนุญาต การควบคุม และการกำกับดูแลการปลูกเฮมพ์ เป็นการเฉพาะ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้ เพื่อให้สามารถส่งเสริมให้มีการปลูกเฮมพ์เป็นพืชเศรษฐกิจ เพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและนำรายได้มาสู่ประเทศได้ ขณะเดียวกันก็ต้องควบคุมและกำกับดูแลอย่างเข้มงวดและรัดกุม มิให้มีการรั่วไหลไปใช้ในทางที่ผิดได้ การครอบครองเฮมพ์ต้องดำเนินการตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 4(พ.ศ.2522) ออกตามความในพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 โดยอาศัยตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ซึ่งกำหนดให้การขอรับใบอนุญาตฯ จะต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษเป็นรายๆ ไป (กระทรวงสาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย) การจำแนกกัญชงออกจากกัญชา โดยใช้เทคนิคปฏิกิริยาลูกโซ่โพลีเมอเรสแบบ duplex PCR โดยออกแบบไพร์เมอร์จากบริเวณยีน THCA synthase และติดฉลากไพร์เมอร์ด้วย 6-FAM เพื่อตรวจสอบชิ้น PCR products ที่แยกขนาดด้วยเทคนิค Capillary Electrophoresis ถ้าเป็นพืชกัญชา ได้ PCR products ขนาด 94 bp และ 158 bp ถ้าเป็นพืชกัญชง ได้ PCR products ขนาด 94 bp เพียงชิ้นเดียว ปฏิกิริยาลูกโซ่นี้มีความไวสูง ใช้สารพันธุกรรมเริ่มต้นในระดับพิโคกรัม (1 x 10-12 กรัม) (อาภาพร และ ณัฎฐินี , 2553)
ไถแปร :
อื่นๆ :
วิธีปลูก :
อัตราปลูก :
พันธ์และท่อนพันธ์ที่ใช้ :
วันปลูก :
วันงอก :
วันปลูกซ่อมหรือย้ายกล้าซ่อม :
วันที่ออกดอก :
วันที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ครั้งแรก :
การเก็บเกี่ยว :
การจัดการส่วนขยายพันธุ์
สารที่ใช้ :
อัตรา :
วิธีการ :
ตารางการใส่ปุ่ย
ครั้งที่ :
วันที่ :
วิธีการให้น้ำ
ครั้งที่ :
วันที่ :
วิธี :
ปริมาณน้ำ(มิลิลิตร) :
โรคพืช
แมลง ไร และศัตรูพืช
วัชพืช
ข้อมูลกรมอุตนิยมวิทยา :
การรับรองพันธุ์พืช/การขึ้นทะเบียนพันธุ์พืช
เอกสารการรับรองพันธุ์/การขึ้นทะเบียนพัน :
ข้อมูลอื่นๆ : เทคโนโลยีการผลิต เนื่องกัญชาเป็นพืชวันสั้น ความยาวช่วงแสงต่อวันมีผลการเจริญเติบโตให้สะสมอาหารได้เพียงพอต่อผลผลิต ในการงอกของเมล็ดใช้เวลา 2-10 วัน ได้รับแสงจำนวน 16 ชั่วโมงต่อวัน ระยะนี้จะมีใบเลี้ยงเกิดขึ้น(1 คู่) เป็นระยะที่ต้องระวังไม่ให้มีความชื้นมากเกินไปซึ่งอาจจะเกิดโรคที่ต้นกล้าได้ง่าย หลังนี้ 2-3 สัปดาห์ ในขณะได้รับแสง 16 ชั่วโมงต่อวัน จะได้ต้นที่มีใบจริง 4 คู่ เป็นระยะสุดท้ายของระยะกล้า เมื่อเลี้ยงดูให้น้ำ ให้ปุ๋ย 4-6 สัปดาห์ (Vegetative Growth) ถ้าเพิ่มกิ่ง เพิ่มใบให้มาก ๆ อาจใข้เวลาถึง 15 สัปดาห์ จะเข้าสู่ระยะการเจริญพันธุ์ (Flowering stage) ระยะนี้ต้องการแสง 18 ชั่วโมงต่อวัน เมื่อต้นกัญชาออกดอกจะมีต้นตัวผู้ที่มีดอกเป็นกระเปาะกลม ส่วนต้นตัวเมืยจะดอกผอมแหลมมีปลายเกสรโผล่ออกมาให้เห็น(pistil) เทคโนโลยีการผลิต เนื่องกัญชาเป็นพืชวันสั้น ความยาวช่วงแสงต่อวันมีผลการเจริญเติบโตให้สะสมอาหารได้เพียงพอต่อผลผลิต ในการงอกของเมล็ดใช้เวลา 2-10 วัน ได้รับแสงจำนวน 16 ชั่วโมงต่อวัน ระยะนี้จะมีใบเลี้ยงเกิดขึ้น(1 คู่) เป็นระยะที่ต้องระวังไม่ให้มีความชื้นมากเกินไปซึ่งอาจจะเกิดโรคที่ต้นกล้าได้ง่าย หลังนี้ 2-3 สัปดาห์ ในขณะได้รับแสง 16 ชั่วโมงต่อวัน จะได้ต้นที่มีใบจริง 4 คู่ เป็นระยะสุดท้ายของระยะกล้า เมื่อเลี้ยงดูให้น้ำ ให้ปุ๋ย 4-6 สัปดาห์ (Vegetative Growth) ถ้าเพิ่มกิ่ง เพิ่มใบให้มาก ๆ อาจใข้เวลาถึง 15 สัปดาห์ จะเข้าสู่ระยะการเจริญพันธุ์ (Flowering stage) ระยะนี้ต้องการแสง 18 ชั่วโมงต่อวัน เมื่อต้นกัญชาออกดอกจะมีต้นตัวผู้ที่มีดอกเป็นกระเปาะกลม ส่วนต้นตัวเมืยจะดอกผอมแหลมมีปลายเกสรโผล่ออกมาให้เห็น(pistil)
ข้อมูลอื่นๆ : C. sativa L. มีชุดโครโมาโซมเป็น 2n =2x = 20 มีต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศจีน และมีการกระจายพื้นที่ออกไปตั้งแต่พื้นที่ระดับน้ำทะเลไปจนถึงบริเวณเทือกเขาหิมาลัยและปัจจุบันมีการปลูกอย่างแพร่หลายทั่วโลก จากหลักฐานทางโบราณคดีพบว่ามนุษย์มีการนำพืชสกุลกัญชามาใช้ปประดยชน์โดยการทำอาหารและนำเส้นใยมาใช้ประโยชน์ เป็นระยะเวลามากกว่า 10,000 ปี(Thomas and ElSohly, 2016 และ Bonini et al., 2018) และมีหลักฐานการใช้ประโยชน์จากเส้นใยในพื้นที่อียิปต์และตะวันออกกลาง ต่อมาแพร่กระจายไปสู่ยุดรปในช่วงปี 1,000 และ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล และ ในช่วงคริสต์ศักราชที่ 1606 มีการนำมาปลูกเพื่อใช้ประโยชน์จากเส้นใยในอเมริกาเหนือ สำหรับการใช้ประโยชน์ในการเป็นสมุไพร มีหลักฐานในการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ตะวันออกกลางและเอเชียในช่วง 600 ปีก่อนคริสตกาล และในศตวรรษที่ 19 ประเทศในยุโรปตะวันตกได้นำพืชสกุลกัญชามาใช้เป็นยารักษาโรคต่าง ๆ เช่น โรคลมบ้าหมู บาดทะยัก โรคไขข้อ ไมเกรน โรคหอบหืด โรคประสาทส่วนปลายอ่อนเพลีย และอาการนอนไม่หลับ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
ข้อมูลการทดลอง
ข้อมูลผู้ทดลอง :
ฤดูปลูก-ปี :
ไร่เกษตรกร/ศูนย์วิจัย :
จังหวัด :
อำเภอ :
ตำบล :
พื้นที่ลาดเอียง :
พิกัด X :
พิกัด Y :
การวางแผนการทดลอง (Experimental design) :
จำนวนกรรมวิธี (Treatment) :
จำนวนซ้ำ (Replication) :
จำนวนบล็อค (Block) :
ขนาดแปลง (ตารางเมตร (ไร่)) :
ขนาดความกว้างแปลงย่อย :
ขนาดความยาวแปลงย่อย :
จำนวนต้นเก็บเกี่ยว :
จำนวนต้นเก็บเกี่ยว :
ระยะการปลูก
ระหว่างแถว (เซนติเมตร) :
ระหว่างต้น (เซนติเมตร) :
ระยะการปลูก
ข้อมูลอื่น :
ปัญหาอุปสรรค์และวิธีการแก้ไข :
พืชที่ปลูกในฤดูที่ผ่านมา :
ผลผลิต (กิโลกรัม/ไร่) :
การใส่ปุ๋ยในฤดูที่ผ่านมา :
ศัตรูพืชและการป้องกันกำจัด :
วันที่ปลูก :
วันที่ออกดอก :
วันที่เก็บเกี่ยว :
ชนิดของดินที่ปลูก
ชนิดของดินที่ปลูก :
การวิเคราะห์ดิน
ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) :
อินทรีวัตถุ (%) :
ฟอสฟอรัส (mg/kg) :
โพแทสเซียม (mg/kg) :
ค่าการนำไฟฟ้า (EC) :
ธาตุรองต่างๆและธาตุเสริม
Ca (mg/kg) :
Fe (mg/kg) :
Mo (mg/kg) :
Mg (mg/kg) :
Zn (mg/kg) :
Mn (mg/kg) :
S (mg/kg) :
B (mg/kg) :
Cu (mg/kg) :