ข้อมูลพืชสวน
กลุ่มพืช(Group)/ชื่อพืช : ไม้ผล
ชื่อพืช (PlantName)
ชื่อไทย(Thai Name/Vernacular name) : สละ
ชื่อวิทยาศาสตร์ (Sciencetific Name)
วงศ์ (Family) : AGAVACEAE
สกุล (Genus) : Anacardium
ชนิด (specific epithet) : occidentale
ชื่อผู้ตั้ง (Author name) :
ชนิดย่อย (Subspecies) :
พันธุ์ (Variety) : สุมาลี
ทดสอบเพิ่มฟืลด์ :
ชื่อการทดลอง :
ลักษณะทางเกษตร :
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
สถานการณ์พืช : ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกสละจำนวนทั้งสิ้น 19 จังหวัดกระจายกันไปในแต่ละภูมิภาค โดยมีพื้นที่ปลูกรวมทั้งประเทศ 16,380 ไร่ ผลผลิตประมาณ 15,430 ตัน/ปี จำนวนผู้ปลูก 6,754 ราย ผลผลิตเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่ 1,075 กิโลกรัม/ไร่ ราคาขายเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่ 40.63 บาท/กิโลกรัม (กรมส่งเสริมการเกษตร,2560) ทำรายได้ให้กับเกษตรกรทั่งประเทศไม่ต่ำกว่า 626.920 ล้านบาท/ปี มีแหล่งปลูกที่สำคัญอยู่ในจังหวัดจันทบุรี ระยอง ตราด สุราษฎร์ธานี พัทลุง และนราธิวาส โดยเฉพาะจังหวัดจันทบุรี มีพื้นที่ปลูกมากที่สุดโดยในปี 2559 มีพื้นที่ปลูกจำนวน 10,325 ไร่ แยกเป็นพื้นที่ยังไม่ให้ผลผลิตจำนวน 9,483 ไร่ เนื้อที่ให้ผลผลิตจำนวน 5,049 ไร่ ผลผลิตเฉลี่ยเท่ากับ 1,087 กิโลกรัม/ไร่ มีผลผลิตออกสู่ท้องตลาดจำนวนปีละไม่ต่ำกว่า 10,310 ตัน ราคาขายเฉลี่ย 39.15 บาท/กิโลกรัม ซึ่งสามารถทำรายได้ให้กับจังหวัดจันทบุรีเป็นเงิน 403.636 ล้านบาท/ปี พันธุ์สละที่นิยมปลูกในปัจจุบัน คือ มี 2 พันธุ์ คือสละพันธุ์สละมาลี และสละเนินวง ซึ่งสละพันธุ์สุมาลี มีลักษณะเด่น คือ เนื้อมีรสชาติหวานแหลม และมีกลิ่นหอม เมล็ดใหญ่ เนื้อหนา ราคาจำหน่ายผลสดจากสวนอยู่ที่ 60-80 บาท/กิโลกรัม ส่วนสละเนินวง มีลักษณะเด่นคือ เนื้อมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว เนื้อหนา ผลใหญ่กว่าสละพันธุ์สละมาลี ราคาผลจำหน่ายผลอยู่ที่ 35-40 บาท/กิโลกรัม
ไถแปร :1 ครั้ง
อื่นๆ : ปรับพื้นที่ให้เรียบและขุดร่องระบายน้ำ หากมีปัญหาน้ำท่วมขัง
วิธีปลูก : ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดกว้าง ยาว ลึก ประมาณ 30 ซม. รองก้น ก้นหลุมด้วยหินฟอสเฟส อัตรา 500 กรัม/หลุม วางต้นพันธุ์แล้ว กลบดินจนอยู่ระดับเดียวกับผิว ควรเอาดิบกลบโคนปีละ 1 ครั้ง
อัตราปลูก : ระยะปลูก4?4 เมตร 1ไร่ ปลูกได้ประมาณ 60-70 ต้น
พันธ์และท่อนพันธ์ที่ใช้ : ตรงตามพันธุ์ ซึ่งต้องเป็น ต้นพันธุ์ที่ได้จากการขยาย พันธุ์โดยการตักชำรากลำ ต้นแก่หรือแยกหน่อจากต้น เพศเมียเท่านั้น
วันปลูก :
วันงอก :
วันปลูกซ่อมหรือย้ายกล้าซ่อม :
วันที่ออกดอก :
วันที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ครั้งแรก :
การเก็บเกี่ยว : *นับอายุผล ควรเก็บเกี่ยวเมื่อสละมี อายุประมาณ 37 สัปดาห์หลังดอก บานผประมาณ 9 เดือน) *สังเกตุสีเปลือก จะเปลี่ยนจากสีน้ำตาล เป็นสีน้ำตาลแดงผิวเปลือกแตกเป็น ลายคล้ายเกล็ดงูชัดเจน *บีบผลแล้วรู้สึกนิ่ม *ทดสอบรสชาติโดยการชิมเป็นวิธีที่ แน่นอนที่สุด *ใช้กรรไกรหรือมีดมีคมตัดกระปุกสละ ทีละกระปุกวางในเข่งหรือตระกร้า *ขนถ่ายจากแปลงไปยังโรงเรือนคัด บรรจุด้วยความระมัดระวัง
การจัดการส่วนขยายพันธุ์
สารที่ใช้ :
อัตรา :
วิธีการ :
ตารางการใส่ปุ่ย
ครั้งที่ : 1
วันที่ :
ปุ๋ย/ฮอร์โมน : ปุ๋ย
สูตร/ชนิดฮอร์โมน : ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 หรือ16-16-16
อัตรา : อายุสละ 1-2 ปี อัตรา 2-5 กก./กอ/ปี แบ่งใส่ 2-4 ครั้ง/ปี อายุสละ 3 ปีขึ้นไป ปุ๋ยเคมีมีเรโชเท่ากับ 1:1:1 หรือ2:1:2 หรือใกล้เคียง อัตรา 1-2 กก. /ก่อ/ปี ใส่ทุกเดือนๆละ 1-2 ครั้ง โดยพิจารณาความสมบูรณ์ของต้น และผลผลิตประกอบ
โดยวิธี : หว่านรอบทรงพุ่ม
ครั้งที่ : 2
วันที่ :
ปุ๋ย/ฮอร์โมน : ปุ๋ย
สูตร/ชนิดฮอร์โมน : ปุ๋ยคอก
อัตรา : อายุ 1-2 ปี ปุ๋ยคอก อัตรา 10-20 กก./ก่อ/ปี อายุ 3 ปีขึ้นไป ปุ๋ยคอก อัตรา 30-40 กก./ก่อ/ปี
โดยวิธี : หว่านรอบทรงพุ่ม
วิธีการให้น้ำ
ครั้งที่ : 1
วันที่ :
วิธี : ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยทางสปิงเกอร์
ปริมาณน้ำ(มิลิลิตร) : 118
โรคพืช
วันที่ :
ชนิดสารเคมี :
อัตรา :
วันที่ :
ชนิดสารเคมี :เบนโนมิลและคาเบนดาร์ซิม
อัตรา :
แมลง ไร และศัตรูพืช
ครั้งที่ : 1
วันที่ :
อัตรา :
ครั้งที่ : 1
วันที่ :
อัตรา :
วัชพืช
ข้อมูลกรมอุตนิยมวิทยา : ปริมาณน้ำฝนไม่น้อยกว่า 1,500 มิลลิเมตรต่อปี การกระจายตัวของฝนดี ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ย 60-70% สวนสละต้องมีการป้องกันลมโดยทำฉากป้องกันลมหรือปลูกไม้บังลมรอบแปลง
การรับรองพันธุ์พืช/การขึ้นทะเบียนพันธุ์พืช
เอกสารการรับรองพันธุ์/การขึ้นทะเบียนพัน :
ข้อมูลอื่นๆ : การตัดแต่งทางใบ *สละที่ให้ผลผลิตแล้วควรไว้ทางใบ 15-20 ทางใบ *ไม่ควรตัดแต่งทางใบที่รองรับทะลายผลจนกว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว *ทางใบช่วงที่มีใบตัดแล้วนำมาปูคลุมโคนโดยคว่ำหนามลงดิน การตัดแต่งหน่อและไว้กอ *หลังจากเลี้ยงหน่อได้จำนวนที่ต้องการแล้วค่อยหมั่นตัดหน่อที่ไม่ต้อง การออกทั้งหน่อข้างต้นและหน่อดิน การตัดแต่งดอก *คานดอกที่ออกมาระยะ2ปีควรตัดทิ้ง *ตัดแต่งช่อดอกในแต่ละคานให้เหลือปริมาณพอเหมาะกับความสมบูรณ์ การผสมดอก *สละต้องช่วยผสมเกสรโดยตัดช่อตัวผู้ของระกำ สะกำ หรือสละที่บาน แล้วมาเคาะใส่ช่อดอกตัวเมียที่บานแล้ว 50% ของช่อดอกขึ้นไปให้ละ อองเกสรตกลงไปผสมกับเกสรตัวเมีย *ผสมเกสรโดยใช้เกสรสำเร็จรูปที่เก็บรวบรวมไว้ผสมกับแป้งทาลคัมอัตรา 1:10 พ่นบนช่อดอกตัวเมียที่บานแล้ว 80%
ข้อมูลอื่นๆ :
ข้อมูลการทดลอง
ข้อมูลผู้ทดลอง : นายสำเริง ช่างประเสริฐ
ฤดูปลูก-ปี :
ไร่เกษตรกร/ศูนย์วิจัย : ศูนย์พัฒนาไม้ผลเศรษฐกิจภาคตะวันออกจังหวัดจันทบุรี
จังหวัด : จันทบุรี
อำเภอ : อำเภอขลุง
ตำบล : บ่อ
พื้นที่ลาดเอียง :
พิกัด X :
พิกัด Y :
การวางแผนการทดลอง (Experimental design) : RCB
จำนวนกรรมวิธี (Treatment) : 4
จำนวนซ้ำ (Replication) : 4
จำนวนบล็อค (Block) :
ขนาดแปลง (ตารางเมตร (ไร่)) : 5 ไร่
ขนาดความกว้างแปลงย่อย : เมตร
ขนาดความยาวแปลงย่อย : เมตร
จำนวนต้นเก็บเกี่ยว : เมตร
จำนวนต้นเก็บเกี่ยว : เมตร
ระยะการปลูก
ระหว่างแถว (เซนติเมตร) : 500
ระหว่างต้น (เซนติเมตร) : 500
ระยะการปลูก
ข้อมูลอื่น :
ปัญหาอุปสรรค์และวิธีการแก้ไข :
พืชที่ปลูกในฤดูที่ผ่านมา :
ผลผลิต (กิโลกรัม/ไร่) :
การใส่ปุ๋ยในฤดูที่ผ่านมา :
ศัตรูพืชและการป้องกันกำจัด :
วันที่ปลูก :
วันที่ออกดอก :
วันที่เก็บเกี่ยว :
ชนิดของดินที่ปลูก
ชนิดของดินที่ปลูก : ดินร่วน (Loam)
การวิเคราะห์ดิน
ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) :
อินทรีวัตถุ (%) :
ฟอสฟอรัส (mg/kg) :
โพแทสเซียม (mg/kg) :
ค่าการนำไฟฟ้า (EC) :
ธาตุรองต่างๆและธาตุเสริม
Ca (mg/kg) :
Fe (mg/kg) :
Mo (mg/kg) :
Mg (mg/kg) :
Zn (mg/kg) :
Mn (mg/kg) :
S (mg/kg) :
B (mg/kg) :
Cu (mg/kg) :