<< กลับสู่หน้ารายการ
ดาวโหลดข้อมูล
<< กลับสู่หน้ารายการ
หม่อนนครราชสีมา 60
- ประวัติ
- ปีพ.ศ.2524 สถานีทดลองหม่อนไหมนครราชสีมา ทำการผสมพันธุ์หม่อนระหว่างสายพันธุ์ แก้วชนบท กับ ลูกผสมสายพันธุ์ Shujakuichi no 18 ได้ลูกผสมที่ผ่านการคัดเลือกช่วงแรก 300 ต้น นำไปปลูกในแปลงทดลองได้ทำการคัดเลือกหม่อนลูกผสมที่มีลักษณะเกี่ยวข้องกับการให้ผลผลิตสูง และคุณภาพของใบมาทำการขยายพันธุ์ โดยการติดตาบนต้นหมอนไผ่ คัดเลือกพันธุ์หม่อนที่มีการเจริญเติบโต แตกกิ่ง ให้ผลผลิตสูง มีคุณภาพใบเหมาะสมกับการเลี้ยงไหม
- ลักษณะประจำพันธุ์
- ใบรูปไข่ สีเขียว มีความนุ่ม ผิวใบเรียบมากกว่าหม่อนน้อย ก้านใบยาว การเรียงตัวของใบ 2/5 ขนาดของใบ 18.3x23.3 เซนติเมตร ความเลื่อมมันใบมากกว่าหม่อนน้อย ลำต้นมีสีเทา ทรงต้นตั้งตรง ระยะข้อปล้อง 4.1 เซนติเมตร การเจริญเติบโต 276.33 เซนติเมตรต่อ 12 เดือน การแตกกิ่ง 4.5 กิ่งต่อ 12 เดือน น้ำหนัก 100 ใบ หนัก 440.87 กรัม
- ชื่อพันธุ์พืชที่รับรอง
- หม่อนนครราชสีมา 60
- พื้นที่แนะนำ
- ปลูกได้ในสภาพพื้นที่ทั่วไปที่มีการเลี้ยงไหม
- ข้อควรระวัง/ข้อจำกัด
- ท่อนพันธุ์ออกรากได้ยากกว่าหม่อนน้อย ก่อนปลูกควรชุบสารเร่งรากหรือขยายพันธุ์ด้วยวิธีติดตาลงบนต้นตอหม่อนพันธุ์ที่ออกรากง่ายนอกจากนี้เป็นพันธุ์ไม่ต้านทานโรคและแมลง
- หน่วยงานเจ้าของพันธุ์
- ศูนย์วิจัยหม่อนไหมนครราชสีมา กรมวิชาการเกษตร
- วันที่รับรอง (วัน/เดือน/ปี)
- 09 ธ.ค. 2530
- ประเภทพันธุ์
- พันธุ์รับรอง
- ลักษณะเด่น
- ผลผลิตใบหม่อนต่อไร่สูงกว่าพันธุ์ม่อนน้อยในทุกฤดูกาลโดยให้ผลผลิตเฉลี่ย 3,600 กิโลกรัมต่อไร่ ต่อปี (สามารถเลี้ยงไหมได้ 8-9 กล่อง ได้ผลผลิตรังไหม 160-180 กิโลกรัม มูลค่า 16,000-18,000 บาท ต่อไร่ต่อปี) มีการแตกกิ่งหลังตัดแต่งดีกว่าหม่อนน้อย ก้านใบมีลักษณะใหญ่ยาวและแข็งทำให้เหมาะกับการเลี้ยงไหมแบบกิ่ง ใบมีลักษณะที่นุ่มหนาปานกลางทำให้เหี่ยวช้าหลังเก็บเกี่ยวสามารถเก็บไว้ได้นาน ใบหม่อนไม่ร่วงง่ายผลผลิตใบจึงสูงขึ้นและเก็บเกี่ยวได้นาน มีคุณค่าทางอาหารสูงใกล้เคียงกับหม่อนน้อย ขยายพันธุ์ได้ง่าย ต้านทานต่อโรคราแป้งได้ดี
- ประเภทพืช
- หม่อนไหม
ดาวโหลดข้อมูล
<< กลับสู่หน้ารายการ