สำหรับเจ้าหน้าที่
สำหรับเจ้าหน้าที่







<< กลับสู่หน้ารายการ

ไหมนครราชสีมา 60-2



ดาวโหลดข้อมูล
ประวัติ
ศูนย์วิจัยหม่อนไหมนครราชสีมา ทำการคัดเลือกและปรับปรุงพันธุ์ C132 ซึ่งได้มาจากประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ ปีพ.ศ.2518 ให้มีรูปร่างและลักษณะเป็นพันธุ์แท้สายพันธุ์จีน ลำตัวขาวปลอดรังเป็นรูปไข่ค่อนข้างกลมเปลือกรังสีขาว ทำการคัดเลือกแบบกลุ่ม จำนวน 6 ชั่ว และทำการคัดเลือกแบบแม่ปัจจุบันทำการคัดเลือกอยู่ในชั่วที่ 49 ไม่มีการกระจายพันธุ์ มีความสม่ำเสมอในการเจริญเติบโตแข็งแรง เลี้ยงง่าย มีความเหมาะสมในการใช้เป็นพ่อและหรือแม่พันธุ์ในการผลิตพันธุ์ไหมลูกผสม
ลักษณะประจำพันธุ์
เป็นพันธุ์ที่มีความเหมาะสมในการใช้เป็นพ่อพันธุ์หรือแม่พันธุ์ในการผลิตพันธุ์ไหมลูกผสม สามารถให้คุณลักษณะต่าง ๆ ที่ดีกว่าพันธุ์ นครราชสีมาลูกผสม 1
ชื่อพันธุ์พืชที่รับรอง
ไหมนครราชสีมา 60-2
พื้นที่แนะนำ
สามารถเลี้ยงได้ทุกฤดูกาลและทุกสภาพท้องที่ที่มีโรงเรือนเหมาะสม
ข้อควรระวัง/ข้อจำกัด
ไม่สามารถเลี้ยงในสภาพพันธุ์พื้นเมืองได้ ในการเลี้ยงไหม 1 แม่ (400 ตัว)ในพื้นที่ 80x50 เซนติเมตร ต้องให้อาหารวันละ 3 เวลา คือ 5.00 น. 11.00 น. และ 16.00 น.ไหมวัยอ่อนถ่ายมูลไหมและกากใบหมอนวันละ 1 ครั้ง ก่อนไหมนอนไหมวัยแก่ถ่ายมูลไหมและกากใบหม่อนวันละ 1 ครั้ง
หน่วยงานเจ้าของพันธุ์
ศูนย์วิจัยหม่อนไหมนครราชสีมา กรมวิชาการเกษตร
วันที่รับรอง (วัน/เดือน/ปี)
09 ธ.ค. 2530
ประเภทพันธุ์
พันธุ์รับรอง
ลักษณะเด่น
ผลิตเป็นเส้นยืนได้ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์พื้นเมืองเกือบ 2 เท่า มีเส้นใยยาวกว่า 1,000 เมตร ในขณะที่ไหมพื้นเมืองมีความยาวไม่เกิน 350 เมตร และเมื่อเปรียบเทียบกับพันธุ์ นครราชสีมา 2 พันธุ์ นครราชสีมา 60-2 เวลาในการเลี้ยงสั้นกว่าซึ่งจะทำให้ประหยัดแรงงานและใบหม่อนและเมื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยจากทุกแหล่งจะเห็นได้ว่าเปอร์เซ็นต์เปลือกรังของนครราชสีมา 60-1 ค่อนข้างสูงกว่าของพันธุ์นครราชสีมา 2 ผลผลิตรังสด 475 กรัม ต่อแม่
ประเภทพืช
หม่อนไหม

ดาวโหลดข้อมูล

<< กลับสู่หน้ารายการ