สำหรับเจ้าหน้าที่
สำหรับเจ้าหน้าที่







<< กลับสู่หน้ารายการ

ไหมนางน้อยสกลนคร



ดาวโหลดข้อมูล
ประวัติ
ไหมพันธุ์นางน้อยสกลนคร เป็นไหมไทยแท้สายพันธุ์ SP1 ได้รับการปรับปรุงพันธุ์โดยสถานีทดลองหม่อนไหมสกลนคร ปี พ.ศ.2534-2535 ทำการปรับปรุงพันธุ์โดยวิธีผสมย้อนกลับ โดยมีไหมพันธุ์นางน้อยศรีสะเกษ 1 เป็นตัวรับยีนหรือลักษณะดีที่ไม่มีในพันธุ์นางน้อย และไหมพันธุ์ บร.7 เป็นตัวให้ยีนไหมพันธุ์บร.7 เป็นพันธุ์ไหมไทยที่สามารถคัดแยกเพศได้ในระยะหนอนไหมเมื่อทำการผสมกลับ 6 ครั้ง จึงได้ไหมพันธุ์ไทยแท้ที่มีคุณสมบัติดี สามารถคัดแยกเพศได้ในระยะหนอนไหม เริ่มใช้เป็นแม่พันธุ์ในการผลิตไข่ไหมตั้งแต่ชั่วที่ 9 เดือนพฤษภาคม 2535 และทำการเลี้ยงไหมรักษาพันธุ์ไว้ถึงชั่วที่ 76 เดือนกรกฎาคม 2546 เพื่อประโยชน์ในการบำรุงรักษาพันธุ์ให้ใช้ประโยชน์นานที่สุด
ลักษณะประจำพันธุ์
ไข่ไหมสีขาวอมเหลือง เพศเมียมีลำตัวหนอนไหมลาย เพศผู้ลำตัวขาวปลอด ขนาดลำตัว 0.6x6.0 เซนติเมตร รังไหมหัวป้าน ท้ายแหลม ขนาดรังไหม 1.0x2.5 เซนติเมตร รังไหมและเส้นไหมสีเหลืองเข้ม อายุหนอนไหม 20 วัน น้ำหนักหนอนไหมโตเต็มที่ 10 ตัว 29 กรัม มีการฟักไข่ 95 เปอร์เซ็นต์ ดักแด้สมบูรณ์ 97 เปอร์เซ็นต์ ขนาดเส้นใย 2.51 ดีเนียร์
ชื่อพันธุ์พืชที่รับรอง
ไหมนางน้อยสกลนคร
พื้นที่แนะนำ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับเกษตรกรปลูกหม่อนเลี้ยงไหมขนาดเล็กถึงขนาดกลาง
ข้อควรระวัง/ข้อจำกัด
โรงเลี้ยงไหมพร้อมอุปกรณ์ต้องแยกต่างหากจากที่อยู่อาศัย สามารถทำความสะอาดโรงเลี้ยงและอุปกรณ์ได้ดีทั้งก่อนและหลังการเลี้ยงไหม
หน่วยงานเจ้าของพันธุ์
ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิตสกลนคร ส่วนแยกหม่อนไหม สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 กรมวิชาการเกษตร
วันที่รับรอง (วัน/เดือน/ปี)
18 ก.พ. 2547
ประเภทพันธุ์
พันธุ์แนะนำ
ลักษณะเด่น
ให้ผลผลิตต่อแผ่นไข่ไหมสูง 15-20 กิโลกรัม จำนวนไข่ไหมต่อแม่สูง 518 ฟอง น้ำหนักรังสดเฉลี่ย 1 รัง 1.42 กรัม เส้นใยยาว 513 เมตร เป็นพื้นที่ที่สามารถคัดแยกเพศได้ในระยะหนอนไหม ทำให้สะดวกในการผลิตไข่ไหมจำนวนมาก ๆ
ประเภทพืช
หม่อนไหม

ดาวโหลดข้อมูล

<< กลับสู่หน้ารายการ