อ้อยพันธุ์ กวก. อู่ทอง 16

ประวัติ

อ้อยพันธุ์อู่ทอง 16 หรืออ้อยโคลน 03-2-395 เป็นลูกผสมของพันธุ์แม่ BC3 ของอ้อยกับพงกับพันธุ์พ่อ อู่ทอง 8 ผสมพันธุ์ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่สุพรรณบุรี ได้ลูกอ้อย 398 ต้นในปี 2546 ปี 2547 ทำการคัดเลือกขั้นที่ 1 ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่สุพรรณบุรี คัดได้ 84 โคลน ปี 2548 ทำการคัดเลือกขั้นที่ 2 ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่สุพรรณบุรี คัดได้อ้อย 14 โคลน มีพันธุ์ K84-200 และอู่ทอง 3 เป็นพันธุ์เปรียบเทียบ ปี 2549–2550 เปรียบเทียบเบื้องต้นพันธุ์อ้อยมีอ้อยทดลอง 43 โคลน มีพันธุ์ K84-200 และอู่ทอง 3 เป็นพันธุ์เปรียบเทียบที่ศูนย์วิจัยพืชไร่สุพรรณบุรี อ้อยพันธุ์อู่ทอง 16 ให้ผลผลิตน้ำหนักเฉลี่ยของอ้อยปลูกและอ้อยตอ 1 19.01 ตันต่อไร่ มีความหวานเฉลี่ย 13.52 ซีซีเอส และให้ผลผลิตน้ำตาลเฉลี่ย 2.57 ตันต่อไร่ ขณะที่พันธุ์ K84-200 ให้ผลผลิตอ้อยเฉลี่ย 12.88 ตันต่อไร่ มีความหวานเฉลี่ย 14.64 ซีซีเอส และให้ผลผลิตน้ำตาลเฉลี่ย 1.91 ตันต่อไร่ สำหรับพันธุ์อู่ทอง 3 ให้ผลผลิตอ้อยเฉลี่ย 17.23 ตันต่อไร่ มีความหวานเฉลี่ย 14.16 ซีซีเอส และให้ผลผลิตน้ำตาลเฉลี่ย 2.44 ตันต่อไร่ ปี 2550–2552 เปรียบเทียบมาตรฐานพันธุ์อ้อยมีอ้อยทดลอง 16 โคลน มีพันธุ์ K84-200 และอู่ทอง 3 เป็นพันธุ์เปรียบเทียบ ที่ศูย์วิจัยพืชไร่สุพรรณบุรี และศูนย์วิจัยพืชไร่ระยอง อ้อยพันธุ์อู่ทอง 16 ให้ผลผลิตอ้อยเฉลี่ยอ้อยปลูก อ้อยตอ 1 และอ้อยตอ 2 14.78 ตันต่อไร่ มีความหวานเฉลี่ย 14.42 ซีซีเอส และให้ผลผลิตน้ำตาลเฉลี่ย 2.14 ตันต่อไร่ ขณะที่พันธุ์ K84-200 ให้ผลผลิตอ้อยเฉลี่ย 11.03 ตันต่อไร่ มีความหวานเฉลี่ย 14.84 ซีซีเอส และให้ผลผลิตน้ำตาลเฉลี่ย 1.64 ตันต่อไร่ สำหรับพันธุ์อู่ทอง 3 ให้ผลผลิตอ้อยเฉลี่ย 10.61 ตันต่อไร่ มีความหวานเฉลี่ย 14.90 ซีซีเอส และให้ผลผลิตน้ำตาลเฉลี่ย 1.59 ตันต่อไร่ ปี 2553-2557 การประเมินสายพันธุ์ดีเด่นที่มีศักยภาพในแหล่งปลูกทั่วประเทศ (การเปรียบเทียบในไร่เกษตรกร) ทำการทดลองปลายฤดูฝนและต้นฤดูฝนเขตน้ำฝนมีอ้อยทดลอง 13 โคลน มีพันธุ์ LK92-11 เป็นพันธุ์เปรียบเทียบ ปลายฤดูฝนเขตใช้น้ำฝนดำเนินการทดลองจำนวน 3 แปลง ที่ไร่เกษตรกร อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี และอำเภอเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์ อ้อยพันธุ์อู่ทอง 16 ให้ผลผลิตอ้อยเฉลี่ยของอ้อยปลูก อ้อยตอ 1 และอ้อยตอ 2 17.79 ตันต่อไร่ ให้ผลผลิตน้ำตาลเฉลี่ย 2.14 ตันต่อไร่ มีความหวานเฉลี่ย 12.25 ซีซีเอส ขณะที่พันธุ์ LK92-11 ให้ผลผลิตอ้อยเฉลี่ย 15.41 ตันต่อไร่ ให้ผลผลิตน้ำตาลเฉลี่ย 2.06 ตันต่อไร่ มีความเฉลี่ย 14.02 ซีซีเอส ต้นฤดูฝนเขตใช้น้ำฝน ดำเนินการทดลองจำนวน 3 แปลง ที่ไร่เกษตรกรอำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี และอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี อ้อยพันธุ์อู่ทอง 16 ให้ผลผลิตอ้อยเฉลี่ยของอ้อยปลูก อ้อยตอ 1และอ้อยตอ 2 13.23 ตันต่อไร่ ให้ผลผลิตน้ำตาลเฉลี่ย 1.70 ตันต่อไร่ มีความหวานเฉลี่ย 13.05 ซีซีเอส ขณะที่พันธุ์ LK92-11 ให้ผลผลิตอ้อยเฉลี่ย 11.43 ตันต่อไร่ ให้ผลผลิตน้ำตาลเฉลี่ย 1.59 ตันต่อไร่ มีความหวานเฉลี่ย 14.0 ซีซีเอส

ลักษณะประจำพันธุ์

ทรงกอตั้งตรง การติดของกาบใบกับลำต้นหลวม หน่อต่อกอ (หลังงอกอายุ 4 เดือน) 10 หน่อ ยอดอ้อยมีสีเขียว ปล้องเป็นทรงกระบอกโค้งเล็กน้อย มีความยาว 11.4 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 2.8 เซนติเมตร ลักษณะปล้องตัดตามขวางเป็นรูปวงกลม การเรียงตัวของปล้องค่อนข้างตรง ไขที่ปล้องมีมาก สีปล้องเมื่อต้องแสงมีสีม่วงเหลือบเหลือง และเมื่อไม่ต้องแสงมีสีเขียวเหลือบเหลือง ไม่มีร่องเหนือตาและรอยแตกของปล้อง วงเจริญนูนขึ้นเห็นได้ชัด เมื่อต้องแสงมีสีเขียว การเรียงตัวของจุดกำเนิดรากไม่เป็นระเบียบ มีสีเขียว ความกว้างของวงราก 0.9 เซนติเมตร มีวงไข ลักษณะของตากลมและนูนมาก มีขนบนปีกตา ตำแหน่งยอดตาอยู่เท่ากับ วงเจริญ ใบตั้งตรงและชัน มีความกว้าง 6.3 เซนติเมตร ขอบใบไม่มีขน ขนที่กาบใบมีน้อย ต้นสูง 236 เซนติเมตร จำนวนลำต่อกอ 5.26 ลำ จำนวนปล้องต่อลำ 22 ปล้อง

ชื่อพันธุ์พืชที่รับรอง

อ้อยพันธุ์ กวก. อู่ทอง 16

พื้นที่แนะนำ

ควรปลูกอ้อยพันธุ์อู่ทอง 16 ในพื้นที่เขตน้ำฝนปลายฤดูฝน จังหวัดบุรีรัมย์ อุดรธานี และ นครสวรรค์ ในเขตน้ำฝนต้นฤดูฝน จังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี และพื้นที่อื่นที่มีสภาพดินที่คล้ายคลึงกับจังหวัดในพื้นที่แนะนำ

ข้อควรระวัง/ข้อจำกัด

ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีน้ำขัง เพราะจะทำให้ออกดอกมาก

หน่วยงานเจ้าของพันธุ์

ศูนย์วิจัยพืชไร่ สุพรรณบุรี สถาบันวิจัพืชไร่และพืชทดแทนพลังงาน

วันที่รับรอง (วัน/เดือน/ปี)

20 มี.ค. 2560

ประเภทพันธุ์

พันธุ์แนะนำ

ลักษณะเด่น

1. ให้ผลผลิตอ้อยและน้ำตาลสูง การปลูกอ้อยปลายฝนอาศัยน้ำฝน ให้ผลผลิตอ้อยและน้ำตาลเฉลี่ย 17.79 และ 2.14 ตันต่อไร่ ตามลำดับ สูงกว่าพันธุ์ LK92-11 ร้อยละ 15 และ 4 ตามลำดับ 2. การปลูกต้นฝนอาศัยน้ำฝน ให้ผลผลิตอ้อยและน้ำตาลเฉลี่ย 13.23 และ 1.70 ตันต่อไร่ ตามลำดับ สูงกว่าพันธุ์ LK92-11 ร้อยละ 16 และ 7 ตามลำดับ