สำหรับเจ้าหน้าที่
สำหรับเจ้าหน้าที่







<< กลับสู่หน้ารายการ

ปาล์มน้ำมันลูกผสมพันธุ์ กวก. สุราษฎร์ธานี 9



ดาวโหลดข้อมูล
ประวัติ
ปาล์มน้ำมันคู่ผสมหมายเลข 303 ได้จากการผสมข้ามระหว่างแม่พันธุ์ 68/374D กลุ่ม Deli Dura กับพ่อพันธุ์ 125/154T กลุ่ม AVROS โดยแม่พันธุ์ 68/374D ได้จากการคัดเลือกต้นดูราหมายเลข 374 จากสายพันธุ์ DAM564: 693D Self และพ่อพันธุ์ 125/154T ได้จากคัดเลือกต้นหมายเลข 154 จากสายพันธุ์ DAM588: 368T x HC129: 1009P เมื่อปี 2547 ทำการปลูกทดสอบคู่ผสมหมายเลข 303 ที่ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี ระหว่างปี 2548-2558 ร่วมกับคู่ผสมอื่นๆ โดยมีพันธุ์ลูกผสมสุราษฎร์ธานี 3 เป็นพันธุ์เปรียบเทียบ (Standard cross) ดำเนินการทดลอง บันทึกข้อมูลผลผลิตทะลายสด องค์ประกอบผลผลิต องค์ประกอบทะลาย การเจริญเติบโต ตามแบบแผนงานวิจัยปรับปรุงพันธุ์ปาล์มน้ำมัน
ลักษณะประจำพันธุ์
ทางใบมีสีเขียวเข้ม มีความยาวปานกลาง ก้านทะลายสั้น ทะลายเป็นทรงกลมปลายแหลม มีหนามสั้น ความหนาแน่น-หนามช่อทะลายย่อยน้อย ลักษณะผลเป็นรูปทรงผลกลม ยาว ขนาดผลใหญ่ เปลือกผลหนา กะลา(กะลา/ผล)เป็นแบบบาง เนื้อใน (เนื้อใน/ผล)เป็นแบบเนื้อในบาง ผลดิบมีสีดำและผลสุกมีสีแดง (Nigrescens) ทรงต้นสูงปานกลาง
ชื่อพันธุ์พืชที่รับรอง
ปาล์มน้ำมันลูกผสมพันธุ์ กวก. สุราษฎร์ธานี 9
พื้นที่แนะนำ
ควรปลูกในพื้นที่เหมาะสมสำหรับปาล์มน้ำมัน โดยพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันที่มีความเหมาะสม หมายถึง พื้นที่มีปริมาณน้ำฝนมากกว่า 1,800 มิลลิเมตรต่อปี มีช่วงแล้งติดต่อกันไม่เกิน 2 เดือน หรือมีสภาพการขาดน้ำ (Water deficit) ประมาณ 100-200 มิลลิเมตรต่อปี และเป็นดินที่มีการระบายน้ำ และความอุดมสมบูรณ์ดี สามารถให้ผลผลิตทะลายปาล์มสดมากกว่า 3 ตันต่อไร่ต่อปี
ข้อควรระวัง/ข้อจำกัด
ไม่สามารถนำเมล็ดที่ได้ไปขยายพันธุ์ต่อได้ เนื่องจากเป็นลูกผสมชั่วที่ 1 (F1) จะทำให้ได้ปาล์มน้ำมันที่มีการกระจายตัว เช่น ได้ปาล์มน้ำมันที่มีกะลาหนาหรือทะลายฝ่อ ทำให้ผลผลิตต่ำ น้ำมันน้อย คำแนะนำเพิ่มเติม 1. ควรปลูกแบบสามเหลี่ยมด้านเท่า ระยะปลูก 9x9x9 เมตร โดยแถวหลักเป็นฐานอยู่ในแนวทิศเหนือ-ใต้ 2. การจัดการสวนปาล์มน้ำมันให้ปฏิบัติตามหลักการปฏิบัติทางเกษตรที่ดี (GAP) ปาล์มน้ำมันของกรมวิชาการเกษตร
หน่วยงานเจ้าของพันธุ์
ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี สถาบันวิจัพืชไร่และพืชทดแทนพลังงาน
วันที่รับรอง (วัน/เดือน/ปี)
19 มี.ค. 2561
ประเภทพันธุ์
พันธุ์แนะนำ
ลักษณะเด่น
1. ผลผลิตทะลายสดสูง ให้ผลผลิตทะลายสดเฉลี่ย 3.77 ตันต่อไร่ต่อปี สูงกว่าพันธุ์ลูกผสม สุราษฎร์ธานี 3 ซึ่งให้ผลผลิตทะลายสดเฉลี่ย 2.87 ตันต่อไร่ต่อปี คิดเป็น 31.0 เปอร์เซ็นต์ หรือ ให้ผลผลิตทะลายสดเฉลี่ย (อายุ 3-5 ปี) 3.2 ตันต่อไร่ต่อปี และให้ผลผลิตทะลายสดเฉลี่ย (อายุ 6-10 ปี) 4.6 ตันต่อไร่ต่อปี 2. เปอร์เซ็นต์น้ำมันต่อทะลายสูง มีน้ำมันต่อทะลาย 25.7 เปอร์เซ็นต์ หรือเทียบเท่าอัตราการสกัดจากโรงงาน (Oil extraction rate : OER) 21.8 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นผลผลิตน้ำมันดิบ 821.8 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี สูงกว่าพันธุ์ลูกผสมสุราษฎร์ธานี 3 23.8 เปอร์เซ็นต์ 3. ลักษณะผลมีเปลือกนอกหนาและกะลาบาง สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานและใกล้เคียงกับพันธุ์ลูกผสม สุราษฎร์ธานี 3 โดยมีเปลือกนอกสดต่อผล 86.5 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์) และมีกะลาต่อผล 7.5 เปอร์เซ็นต์ ดีกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์)

ดาวโหลดข้อมูล

<< กลับสู่หน้ารายการ